จากกรณี นายชัยยศ สุขต้อ ครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิด ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุอาหารกลางวันนักเรียนอนุบาลและประถม ที่อดีตผู้บริหารโรงเรียนบริหารงบอาหารกลางวันให้เด็กมัธยมได้กินด้วย
ล่าสุดหลังกลายเป็นข่าวคึกโครม ครูชัยยศ เปิดเผยว่า มีหน่วยงานและผู้คนติดต่อประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งส่งกำลังใจเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้แม้ตนเองจะถูกปลดออกจากการเป็นครูแล้วแต่ยังอาสาสอนเด็กๆ ที่โรงเรียนยางเปาเหมือนเดิมโดยไม่มีเงินเดือน แต่ลดชั่วโมงการสอนลง เหลือสอนวิชาศิลปะ 3 ชั่วโมง และสอนวิชาขับร้องเพลง 1 ชั่วโมง
ส่วนสาเหตุที่ตนเองยังอาสาสอนเด็กๆที่โรงเรียนนี้ เพราะไม่อยากจากพื้นที่ไปไหน ยึดอาชีพเป็นครูมานานกว่า 30 ปีแล้ว และได้รับการบรรจุสอนที่นี่ตั้งแต่ปี 2540 จึงรักโรงเรียน รักเด็กๆมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับโรงเรียน เพื่อนครู หรือนักเรียนแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่หน่วยงานอื่นมาตัดสินทั้งหมด
ส่วนการขายโรตี เป็นอาชีพเสริมไม่ได้ทำทุกวัน จะใช้เวลาหลังว่างจากการสอนพิเศษ และกิจกรรมอื่นๆ เช่น ทำอาหารเลี้ยงเด็ก ตอนนี้ขายอยู่หน้าบ้านพักโรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย และวันเสาร์-อาทิตย์ ไปขายที่อ.ดอยเต่า แต่แทบไม่มีกำไรเพราะกำลังซื้อคนในพื้นที่มีไม่มาก ล่าสุดตนเองจะต้องออกจากบ้านพักโรงเรียนแล้ว จึงต้องหาทำเลใหม่ในการขาย และวางแผนว่าจะเปิดร้านขายอาหารเพื่อเลี้ยงข้าวนักเรียนด้วย
ครูชัยยศ กล่าวอีกว่า หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ตนเองเสียเงินเป็นค่าใช้จ่ายวิ่งเต้นเรื่องคดีและค่าจ้างทนายไปแล้วจำนวนมาก แม้ถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว แต่ยังถูกดำเนินคดีอาญาอยู่ จึงต้องนำที่ดินของทางบ้านไปขายได้เงินมา 150,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและประสานงาน แม้มีลูกศิษย์หลายคนรวบรวมเงินมาช่วยเหลือ แต่ไม่กล้ารับเพราะรู้ว่าทุกคนก็ลำบากเช่นกัน
พยายามไม่เศร้าโศกและคิดมากกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับชีวิตในครั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาหลายครั้งจากอุบัติเหตุ และการจมน้ำแต่ก็รอดมาได้ ยืนยันไม่ยอมรับกับการถูกติดสินครั้งนี้ และจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด กระแสข่าวที่ออกไปมีหลากประเด็นที่ถูกบิดเบื้อนกล่าวหาว่าตนเองเป็นผู้จัดการงบอาหารกลางวัน แต่ข้อเท็จจริงตนเองเป็นเพียงกรรมการตรวจรับเท่านั้น ครูชัยยศ กล่าว